Fanfic Hannibal : Sweet Dreams

Rating : PG

Fandom : Hannibal

Relationships : Hannibal Lecter/Will Graham

 

·° ·✦· * •·• ✶˚ · * ✧ * ˚· · * ✵ ✧✵. ·✵✫˚·· ·✦˚· ⊹· * .. °·° ·✦· * •·• ✶˚ · * ✧ * ˚· · * ✵ ✧✵. ·✵✫˚·· ·

 

ถ้าใครเข้ามาในบ้านวิลแกรห์มตอนนี้ก็คงเห็นภาพน่าตลกของเจ้าสุนัขตัวนึงที่ปีนขึ้นมาบนอ่างล้างหน้าและกำลังยื่นหน้าเข้าใกล้กระจกเหมือนกำลังส่องหน้าตัวเอง

และถ้าสุนัขพูดได้– ถ้าวิลแกรห์มในตอนนี้พูดได้ เขาก็คงตอบไปว่า ใช่ ผมกำลังส่องดูหน้าตัวเองอยู่

 

อุ้งเท้าที่ปกคลุมด้วยขนปุยสีดำขยับแตะใบหน้าของตนแต่ก็ทำได้แค่สัมผัสปลายคางเพราะขาของเจ้าตัวสั้นเกินไป วิลกระโดดลงมาที่พื้น และยืนนิ่งอยู่พักใหญ่ เขายังทำใจเชื่อไม่ได้ว่านี่คือเรื่องจริง ทั้งๆที่เมื่อวานเขาก็ใช้ชีวิตปกติ ไปทำงาน กินข้าว กลับเข้านอนในเวลาเดิม แต่พอตื่นขึ้นมาตอนเช้าวันนี้กลับพบว่าร่างสูง180ซม. กลายเป็นสุนัขตัวเล็กขนสีดำ และยังดวงตาสีเหมือนกันกับเขาอีกต่างหาก ในขณะที่วิลกำลังสับสนว่าเขาควรจะทำอย่างไรต่อป เสียงสุนัขหลายตัวจากทางหน้าบ้านทำให้เขานึกอะไรขึ้นมาได้

วิลวิ่งไปหากลุ่มหมาของเขาที่ตอนนี้น่าจะนอนอยู่หน้าเตาผิง เขาไม่คิดว่าคนที่กลายเป็นหมาจะพูดกับคนได้ แค่ถ้าเป็นหมาด้วยกันเอง บางทีอาจจะพอเข้าใจ…

 

แต่เหมือนว่าวิลจะคิดผิดไป

ร่างสุนัขตัวเล็กตอนนี้กำลังจมอยู่ในฝูงหมาหลง วินสตั้นเลียขนของเขาจนชุ่ม หมาตัวอื่นก็เอาตัวมาถูเขา บ้างก็นอนทับจนขยับตัวไม่ได้ และเขา ก็ไม่เข้าใจที่พวกมันคุยกันเลยสักนิด แต่ดูท่ากลิ่นตัวของเขาจะไม่ต่างจากตอนเป็นคน เพราะเจ้าพวกนี้ดูจะเป็นมิตรกับเขามาก มากเกินไปด้วยซ้ำ

 

ในขณะที่วิลกำลังคิดหาทางรอดพ้นจากกลุ่มก้อนสุนัข เสียงเครื่องยนต์ของรถก็ดังเข้ามาใกล้บ้านของเขา และหลังจากนั้นไม่นาน ก็ตามมาด้วยเสียงเคาะประตู วิลส่ายหางดีใจโดยไม่รู้ตัว และถึงเขารู้ก็ควบคุมไม่ได้ เขาพยายามจะตะโกนขอความช่วยเหลือจากคนหลังประตูนั่นแต่เสียงที่ออกมาก็มีแค่เสียงเห่าแหลมเล็กเท่านั้น.. ถ้าต้องกลายเป็นหมาทำไมเขาไม่เป็นไซบีเรียนหรือโกลเด้นกันนะ

 

ดูเหมือนว่าโชคยังเข้าข้างวิลอยู่บ้าง เมื่ออลาน่าตัดสินใจใช้กุญแจสำรองไขเข้าไปในบ้านเมื่อเจ้าของบ้านไม่ยอมมาเปิดสักที ทั้งๆที่ปกติแค่ได้ยินเสียงหมาเห่าขนาดนี้ต้องรีบออกมาดูแล้ว เมื่อเธอเปิดเข้าไปกลุ่มสุนัขของวิลก็เข้ามาพันขา ยกเว้นอยู่ตัวหนึ่งที่ตอนนี้นอนคว่ำอยู่บนพื้น เธอไม่เคยเห็นสุนัขตัวนี้มาก่อน บางทีวิลคงพึ่งเก็บมาเลี้ยง ดวงตาสีเขียวจ้องมองเธอ สีตาของมันดูคล้ายกับเจ้าของ

“ว่าไงเจ้าหนู วิลไปไหนแล้วล่ะ”

“โฮ่ง!” เธอหัวเราะเบาๆเมื่อเจ้าขนปุยร้องขึ้นมาเหมือนจะตอบเธอ

“ฉันฟังเธอไม่รู้เรื่องหรอกนะ”

อลาน่าเดินไปทางที่คิดว่าเป็นห้องนอนของวิล เธอเห็นประตูเปิดค้างเอาไว้ ข้าวของในห้องหล่นกระจาย แต่ไร้วี่แววของเจ้าของห้อง

“อ้าว วิลออกไปทำงานแล้วหรอ” เธอรู้สึกแปลกใจ เพราะจานอาหารของเจ้าหมาที่วางอยู่หน้าประตูยังว่างเปล่า ถึงจะรีบอย่างไรวิลก็ไม่ลืมให้อาหารเจ้าพวกนี้แน่ เธอตัดสินใจโทรไปหาแจ๊ค ครอว์ฟอร์ดเพื่อแจ้งเรื่องนี้ อีกฝ่ายตอบกลับมาว่าวิลยังมาไม่ถึง FBI

‘หวังว่าจะไม่มีเรื่องอะไรนะ’

หลังจากให้อาหารพวกสุนัขเสร็จเธอก็กลับไปขึ้นรถ

แต่เจ้าขนปุยสีดำ สุนัขตัวใหม่ของวิลกลับวิ่งตัดหน้าเธอกระโดดขึ้นรถในทันทีที่เธอเปิดประตู

“เฮ้ ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ”

 

ในตอนนี้วิลรู้สึกเหมือนกำลังเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุก ถึงเขาจะไม่เคยเล่นก็เถอะ เท้าทั้งสี่พยายามเกาะเบาะรถไม่ให้ร่างลื่นตกลงข้างล่าง แต่ดูเหมือนว่าอุ้งเท้านุ่มนิ่มจะไม่ช่วยเท่าไหร่เมื่อร่างเขาไถลลงไปอยู่บนที่วางเท้าทุกครั้งที่รถเบรค เขาไม่กล้าใช้เล็บเท้า ถึงจะมั่นใจว่าอลาน่าคงไม่ปล่อยเขาลงข้างทางเพราะเป็นหมาของวิล แต่เธอคงยอมเสียเวลาวนรถพาเขากลับไปบ้านถ้าพบว่าเจ้าหมาตัวนี้ทำเบาะเธอเป็นรอย หลังจากสู้รบ– หมายถึงหนีการจับกุมของอลาน่าอยู่นาน เธอก็ยอมปล่อยให้เขานั่งรถไปกับเธอด้วย ดูจากวิวข้างทางที่เขาพยายามยืดคอมอง เหมือนว่าเธอกำลังไปที่บ้านของดร.เล็คเตอร์ และของหลายกล่องที่เบาะหลังก็น่าจะเป็นของฝากหลังไปพักร้อนที่อังกฤษ เดินทางไปได้สักพัก(แต่นานในความคิดของวิล) รถก็จอดลงที่หน้าประตูบ้านของดร.เล็คเตอร์ วิลรีบกระโดดลงจากรถทันทีที่อลาน่าเปิดประตูรถด้านหลัง และวิ่งไปยืนรอหน้าประตู อลาน่าที่พึ่งหยิบของเสร็จหันมาเจอเขายืนรอหน้าประตูแล้วก็ถอนหายใจ

“ดร.ต้องไม่ชอบใจแน่ถ้าเธอเข้าไปข้างในน่ะ” เธอพูด

วิลรู้ว่าดร.ไม่มีทางชอบแน่กับคนที่ระเบียบจัดแบบนั้น ถ้าเห็นเส้นขนร่วงตามพื้น หรือของในบ้านหล่นเพราะสุนัขตัวนึง หรือไม่ว่าสัตว์อะไรก็ตาม ก็ต้องไม่ชอบอยู่แล้ว แต่เขาไม่ทิ้งโอกาสหาทางกลับคืนร่างตัวเองหรอก

 

อลาน่ามองสุนัขตรงหน้าที่ใช้ดวงตากลมโตนั่นมองเธอไม่วางตา สุดท้ายเธอก็ยอมเปิดประตูให้เจ้าขนปุยเข้าไปในบ้าน เธอแพ้สายตาที่ทำให้นึกถึงวิลจริงๆ

 

วิลมองอลาน่าเดินไปตามทางเดิน พรมเช็ดเท้าที่วางอยู่หน้าบ้าน สลับกับอุ้งเท้าที่เปียกน้ำฝน วิลคิดแผนการบางอย่างขึ้นมาได้ ร่างสีดำกระโดดข้ามพรม วิ่งนำอลาน่าไปรอที่หน้าประตูห้องทำงานเจ้าของบ้าน มองกลับไปเห็นผลงานตัวเองประดับไว้ตามทางเดิน รอยอุ้งเท้าเล็กๆหลายรอยนั่นน่ะ และเป็นอย่างที่เขาคิดไว้ อลาน่าดูตกใจมากเมื่อเห็นการทำผลงานของเขา

“เดี๋ยว หยุดนะ!” อลาน่ารีบเดินเข้ามาหาเมื่อเห็นว่าเจ้าสุนัขทำท่าจะเดินต่อ และดูท่าว่าเสียงความวุ่นวายหน้าห้องจะเรียกเจ้าของบ้านออกมา ประตูห้องทำงานเปิดออก ร่างของคนอายุสี่สิบกว่าในชุดสูทสีน้ำตาล ผมถูกเซ็ตเป็นทรงเหมือนทุกวัน ดร.ฮันนิบาล เล็คเตอร์ มองหญิงสาวตรงหน้าก่อนจะไล่สายตาลงมาที่เขา

“สวัสดีค่ะ ดร.ฮันนิบาล”

“สวัสดีครับ เข้ามาก่อนสิ” ดร.เล็คเตอร์ยิ้มรับเหมือนทุกๆครั้งก่อนจะหลบทางให้หญิงสาวเข้ามา อลาน่าทำท่าลังเล เธอหันมองไปยังรอยเท้าตามทางเดิน

“ขอโทษนะคะ ฉันไม่น่าพาเจ้าหนูนี่เข้ามาเลย”

ให้ตายเถอะ ยังไงเขาก็ไม่ชินเวลาอลาน่าเรียกเขาแบบนั้นเลย

“ไม่เป็นไรครับ ผมกำลังจะทำความสะอาดพอดี” ดร.เล็คเตอร์หันมามองเขา แค่หันมอง ดูจากการเว้นระยะห่าง และสายตาสอดส่องไปทั่วร่างเขาแบบนี้ คงกำลังประเมินความสกปรกบนตัวเขา

“เขาเป็นใครหรือครับ”

“สุนัขตัวใหม่ของวิลน่ะค่ะ ฉันไปหาเขาก่อนมาที่นี่ แต่ไม่เจอ แถมยังได้เจ้าตัวนี้ติดรถกลับมาอีก”

“งั้นหรือครับ เข้ามาก่อนเถอะอลาน่า เดี๋ยวผมตามไปครับ”

“คือ.. ถ้าจะเอาเขาไปปล่อยข้างนอกเดี๋ยวฉันพากลับไปบ้านวิลเองค่ะ”

“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ” ดร.เล็คเตอร์ดันหลังให้อลาน่าเดินเข้าห้องทำงานของตน “ผมแค่จะพาเขาไปล้างตัวเท่านั้นเอง”

 

วิลมองตามดร.เล็คเตอร์ปิดประตูห้องหลังจากอลาน่าเดินเข้าไป ร่างสูงถอดสูทตัวนอกแขวนไว้ที่ราวหน้าห้องเหลือแค่เสื้อเชิ้ต และหยิบผ้าขนหนูผืนใหญ่สีขาวจากตู้ขนาดเล็กเหนือชั้นวางรองเท้า

 

มือที่มีเส้นเลือดขึ้นชัดเจนค่อยๆกางผ้าขนหนูออก ดร.เล็คเตอร์ย่อตัวลง วิลมองตามผ้าที่ค่อยๆเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ

 

และหลังจากนั้นร่างขนปุยสีดำก็ถูกห่อด้วยผ้าขนหนูสีขาวจนกลายเป็นก้อนสีขาวแทน

 

วิลมองไม่เห็นอะไรข้างนอก ผ้าผืนหนาปิดบังวิสัยทัศน์ของเขา และเกือบจะหายใจไม่ออกด้วยซ้ำถ้าเจ้าของอ้อมแขนที่อุ้มเขาอยู่รัดผ้าแน่นกว่านี้อีกนิด เขารู้สึกเหมือนร่างกำลังขยับขึ้นลงตามจังหวะการก้าวเดิน เสียงเปิดประตูห้อง วิลคิดว่าเป็นห้องน้ำ เพราะความชื้นและกลิ่นลาเวนเดอร์อ่อนๆ ร่างของเขาถูกปล่อยให้อยู่บนพื้นอย่างเบามือ แต่เจ้าของบ้านก็ยังไม่เอาผ้าที่พันตัวเขาออก เสียงลูกบิดดังขึ้นอีกครั้ง และตามด้วยเสียงประตูปิดลง วิลขยับตัวดิ้นเพื่อให้ผ้าหลุด แต่เหมือนมันจะยิ่งทำให้พันมากกว่าเดิม เขานอนฟังเสียงน้ำหยดอยู่สักพัก ก็ได้ยินเสียงรองเท้าเดินเข้ามาใกล้

 

“ถ้าอย่างนั้นฉันฝากสุนัขตัวนั้นด้วยนะคะ”

“ผมจะส่งให้ถึงในบ้านเลยครับ”

ดร.ฮันนิบาล เล็คเตอร์ปิดประตูห้องทำงานเมื่ออลาน่าเดินออกไป เธอติดธุระต้องไปสอนแทนวิลที่ตอนนี้ยังมาไม่ถึงที่ทำงาน และไม่มีใครรู้ว่าเจ้าตัวอยู่ที่ไหน ฮันนิบาลกดส่งข้อความไปหาวิลเมื่อโทรไปแล้วเจ้าตัวไม่รับ เมื่อวานวิลมาปรึกษาเขาเหมือนทุกวันก่อนจะเดินทางกลับบ้าน แต่พอมาเช้าวันนี้กลับหายตัวไป บางทีเขาอาจจะลองไปดูที่บ้านวิล แต่ก่อนอื่นต้องไปจัดการบางอย่างก่อน

ฮันนิบาลเข้าไปยังห้องแต่งตัว หยิบชุดพลาสติกใสออกมา เป็นชุดคลุมทั้งตัว เขาใส่มันด้วยความคล่องแคล่ว ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำที่อยู่ข้างกัน ที่พื้นใกล้อ่างน้ำ เจ้าสุนัขยังคงนอนนิ่งอยู่ใต้ผ้าขนหนูเหมือนเดิม เขาจับมันออกมา ดูเหมือนสุนัขตัวนี้จะฉลาดอยู่บ้างที่ไม่เห่าเสียงดัง หรือดิ้นหนีเขา แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ มือหยิบปลอกคอสุนัขที่เคยได้เป็นของขวัญคริสต์มาสมาใส่ที่คอของสุนัขตรงหน้า เขาไม่เคยคิดว่าจะได้ใช้จนวันนี้

“อลาน่าติดธุระ เธอคงต้องอยู่กับฉันไปก่อน”

ผูกสายจูงไว้กับก๊อกน้ำที่อ่าง มืออีกข้างจับล็อกให้สุนัขอยู่กับที่ ดวงตากลมโตจ้องมองเขา สีของดวงตาทำให้ฮันนิบาลนึกถึงเจ้าของมัน มันมองเขาเหมือนสงสัยว่าเขากำลังทำอะไร

“เดี๋ยวก็จบแล้ว” ฮันนิบาลพูดกับสุนัขตรงหน้า

 

วิลขยับตัวนอนในผ้าขนหนูสีขาวเหมือนเดิมแต่เป็นผืนใหม่ ขนของเขาแห้งแล้ว แต่ก็ยังถูกพันตัวด้วยผ้านี่เหมือนเดิม เพื่อกันขนร่วงลงพื้น… นึกถึงเรื่องเมื่อชั่วโมงก่อน เขารู้ว่าดร.เล็คเตอร์ไม่เคยอาบน้ำสุนัข แต่ก็ไม่คิดว่าการอาบน้ำครั้งแรกของดร.จะออกมาเป็นสภาพแบบนี้ ครั้งแรกที่เห็นว่าเจ้าตัวใส่ชุดพลาสติกเข้ามาก็แปลกใจแล้ว แต่พอเห็นว่าเอาปลอกคอมาใส่กันเขาวิ่งหนี.. ถือว่าเป็นเรื่องดีๆอย่างหนึ่งของการกลายร่างเป็นหมาล่ะนะ เขามองเจ้าของห้องในชุดพลาสติกเหมือนเดิม กำลังปัดฝุ่นตามโซฟา เหมือนว่าชุดนั่นจะเอาไว้ใส่ตอนทำความสะอาด เขาคิดว่าดร.เล็คเตอร์จะจ้างแม่บ้านทำความสะอาดเสียอีก ร่างสูงเดินออกจากห้องไปสักพักก็กลับเข้ามาด้วยชุดสูทพอดีตัวเหมือนเดิม วิลมองตามร่างสูงที่เดินมาใกล้เขา พวกเขามองกันอยู่สักพัก

“จะว่าไปฉันควรเรียกเธอว่าอะไรดีล่ะ” ดร.เล็คเตอร์พูดกับเขา สายตาของดร.ตอนนี้ทำให้เขาเหมือนกำลังโดนวิเคราะห์ความคิด วิลหลบสายตาโดยไม่รู้ตัว

“เจ้าหนู?”

เขาส่งเสียงขู่ทันทีเมื่อโดนเรียกด้วยชื่อนั้น

“ไม่ชอบสินะ” ดร.เล็คเตอร์ขยับยิ้มเมื่อเห็นปฏิกิริยาจากสุนัขตรงหน้า มันทำให้เขานึกถึงวิล ไม่ว่าจะเป็นขนสีดำที่หยิกเล็กน้อย ดวงตาสีเขียวอ่อน และนิสัยที่เหมือนกันหลายส่วน

 

“วิล?”

 

วิลนิ่ง สายตามองไปยังรูปวาดที่แขวนบนผนัง รูปปั้นกวางที่วางบนโต๊ะ และอย่างอื่น ยกเว้นเจ้าของห้อง

นี่ดร.เล็คเตอร์คิดจะเรียกหมาด้วยชื่อของเขาจริงๆใช่ไหม? วิลไม่คิดว่าดร.จะรู้ว่าเขากลายร่างเป็นหมาหรอก แต่คงเรียกเพราะมันเหมือนตัวเขามากต่างหาก

 

“ถ้างั้นฉันจะถือว่าเธอยอมให้ฉันเรียกชื่อนี้ก็แล้วกันนะ วิล”

 

โอเค เขายอมรับก็ได้ว่าแอบดีใจอยู่ลึกๆที่ยังได้ยินชื่อตัวเองน่ะ

 

“เอาล่ะ นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้ว ฉันจะให้เธอกินอะไรก่อนกลับก็แล้วกัน” ดร.เล็คเตอร์พูดจบก็เดินไปทางห้องครัว ทันทีที่ร่างในชุดสูทปิดประตู วิลก็รีบกระโดดลงจากเก้าอี้ไม้ทันที ต้องหาทางทำให้ดร.รู้ว่านี่คือเขา วิลวิ่งไปรอบห้อง หาอะไรบางอย่างที่เขาสามารถใช้ได้ แต่ห้องที่มีแค่หนังสือ หนังสือ และหนังสือจะใช้ทำอะไรได้กันล่ะ วิลปีนขึ้นมาบนโต๊ะทำงาน ไล่สายตาไปตามสิ่งของที่จัดอย่างเป็นระเบียบ ปากกาขนนกวางอยู่ข้าง.. ขวดหมึก.. ไม่ เขาไม่เสี่ยงทำขวดหมึกแตกเพื่อเอามาเขียนหรอก กระดาษ ดินสอปลายแหลม มีดผ่าตัด ซองจดหมาย ไม่มีอะไรที่หมาใช้ได้เลยรึไงนะ และในขณะที่วิลตัดสินใจลงจากโต๊ะนั่นเอง สายตาของเขาก็เจอบางอย่าง…

 

ฮันนิบาลถือจานอาหารที่บรรจุไส้กรอกวางข้างด้วยเนื้อที่ผ่านการนึ่งไอน้ำ ทุกอย่างถูกหั่นเป็นชิ้นไม่เล็กมากจนสุนัขกินลำบาก แต่ก็ไม่ใหญ่จนต้องคาบออกมากินข้างนอก เขาเดินตรงมายังห้องทำงาน แต่ภาพตรงหน้าก็ทำเขาแปลกใจระคนปวดหัวอย่างที่ไม่มีคนไข้คนไหนทำได้มาก่อน

เจ้าก้อนขนสีดำนั่น กำลังนั่งบนโซฟาที่เขาให้ลูกค้านั่ง มันนั่งตัวตรง มองมายังโซฟาฝั่งตรงข้ามที่เป็นที่นั่งของเขา ฮันนิบาลถอนหายใจ วางจานอาหารลงบนโต๊ะข้างโซฟา นั่นทำให้เขาเห็นบางอย่างบนนั้น

สมุดจดเล่มบางเปิดหน้าตารางนัดของเขาค้างเอาไว้ เขาจำได้ว่าเปิดมันเอาไว้ก่อนหน้าที่อลาน่าจะเข้ามา แต่ที่ๆมันควรจะอยู่คือบนโต๊ะทำงานของเขา และรอยฟันและน้ำลายที่มุมกระดาษก็ทำให้เขารู้ตัวคนร้ายในทันที

“วิล เธอเล่นซนเกินไปแล้วนะ”

เขากวาดสายตาเพื่อจดจำรายละเอียดคนไข้บนหน้ากระดาษทั้งหมด นอกจากรอยฟันที่มุมกระดาษ ชื่อวิล แกรห์มที่อยู่ล่างสุดก็โดนฉีกกระชากหายไป

 

“โฮ่ง!” ละสายตาจากสมุด บนโซฟานั่น เจ้าสุนัขใช้เท้าขวาหน้าเหยียบลงบนกระดาษชิ้นหนึ่ง เขาใช้ผ้าเช็ดหน้ารองมือก่อนจะหยิบมันขึ้นมาดู กระดาษชุ่มน้ำลายจนหมึกเลือนแต่เขาก็รู้ในทันทีที่เห็น

 

มันคือกระดาษที่มีชื่อ วิล แกรห์ม อยู่บนนั้น

 

วิลมองดร.เล็คเตอร์ที่ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวตรงข้าม เขาหวังว่าดร.จะเข้าใจว่าเขาต้องการสื่ออะไร หรืออย่างน้อยที่สุดคือไม่ไล่เขาออกจากห้อง

ตั้งแต่ที่ดร.เล็คเตอร์เห็นกระดาษที่มีชื่อของเขา จนตอนนี้ก็ยังไม่พูดอะไร และ เอาแต่มองตรงมาที่เขา วิลเลื่อนสายตาลงมามองอุ้งเท้าของตน

“นอกจากพรสวรรค์เข้าถึงความคิดฆาตกรได้ เธอยังเปลี่ยนร่างเป็นสุนัขได้ด้วยหรือวิล”

“โฮ่งๆ โฮ่ง!” (ถ้าผมเปลี่ยนได้คงไม่อยู่ในร่างนี้หรอก)

“เธอคงกำลังจะบอกว่าถ้าเปลี่ยนได้คงไม่อยู่ในร่างนี้สินะ”

“โฮ่ง?” (คุณเข้าใจ?) คนตรงหน้าไม่ตอบแต่กลับหัวเราะออกมาแทน

“ฉันไม่เข้าใจหรอกนะว่าเธอพูดอะไร แต่ท่าทางของเธอกำลังบอกฉัน” ดร.เล็คเตอร์โน้มหน้าตัวมาหาเขา ถึงจะไม่พูดออกมาแต่เขารู้ทันทีเลยว่า ดร.กำลังสนใจกับเรื่องประหลาดตรงหน้าอยู่ “ตอนเย็นแจ๊คจะมาทานข้าวที่นี่ อยากให้ฉันบอกเรื่องนี้หรือเปล่าล่ะ”

“โฮ่ง! โฮ่งๆๆ โฮ่ง!” (ผมอยากให้คุณบอกว่าทำไมผมหายตัวไป บางทีพวกเขาอาจช่วยอะไรได้)

“ไม่อยากบอกความจริงงั้นหรือวิล”

“โฮ่ง!” (ผมบอกว่าอยาก!)

“ถ้าอย่างนั้นเอาเป็นว่าเธอละเมอเดินไปนอนหลับพึ่งตื่นเมื่อชั่วโมงที่แล้วและกำลังเดินทางกลับบ้าน ตกลงนะ?”

“โฮ่งงงง!” (ไม่!)

“ฉันจะโทรไปยกเลิกนัดวันนี้จะได้ไม่มีใครเข้ามาเจอเธอ” ดร.เล็คเตอร์พูดพลางดูนาฬิกา “อีก5ชม.แจ๊คจะมาที่นี่ ขอฉันไปเตรียมโต๊ะอาหารก่อน”

“โฮะ—” วิลมองประตูที่ถูกปิดลงพร้อมร่างเจ้าของห้องเดินจากไป ให้ตายสิเขาน่าจะรู้อยู่แล้วว่าถ้าดร.เล็คเตอร์รู้คงอยากเก็บเขาไว้ศึกษาก่อน วิลถอนหายใจ แต่สิ่งที่คนภายนอกเห็นคือหมาตัวนี้กำลังหายใจฟึดฟัด เขาล้มตัวลงนอนบนโซฟา เอาไว้แจ๊คมาเขาค่อยหาทางหนีก็แล้วกัน

 

ไม่นานหลังจากนั้น.. ร่างสุนัขขนปุยก็ผล็อยหลับไป

.

.

.

ฮันนิบาลเปิดประตูห้องทำงานเพื่อเรียกแขกยามค่ำคืนที่รอทานมือค่ำ แต่ก็พบว่าเจ้าตัวหลับไปเสียแล้ว

“วิล”

เรียกชื่อของคนตรงหน้าเสียงเบา เพราะเขาไม่ได้คิดจะปลุกคนที่กำลังนอนหลับอย่างสบายอยู่แล้ว

เดินไปหยิบผ้าห่มผืนบางมาคลุมให้เจ้าของร่าง จัดท่านอนบนโซฟายาวให้ กลิ่นคาโมมายล์จากแจกันบนโต๊ะลอยแตะจมูก

 

ฮันนิบาลลูบผมคนตรงหน้าช้าๆ

“ราตรีสวัสดิ์ วิล”

 

เช้าวันต่อมา

 

“เมื่อคืนเป็นอย่างไรบ้างวิล” ฮันนิบาลถามคนที่พึ่งเดินเข้ามาในครัวโดยไม่ละสายตาจากเนื้อบนเขียง

“ผมฝันน่ะ”

“ฝันดีหรือฝันร้ายล่ะ”

วิลนิ่งไปสักพัก “ไม่รู้ว่าฝันเห็นศพ หรือเรื่องเมื่อคืนนี้.. อันไหนเรียกว่าฝันร้ายกันแน่เลยล่ะ”

 

·° ·✦· * •·• ✶˚ · * ✧ * ˚· · * ✵ ✧✵. ·✵✫˚·· ·✦˚· ⊹· * .. °·° ·✦· * •·• ✶˚ · * ✧ * ˚· · * ✵ ✧✵. ·✵✫˚·· ·✦˚

ตอนแรกจะให้หมออุ้มวิลไปนอนบนเตียงดีๆ แต่ตัดภาพมาที่ฉากตอนอุ้มวิลออกจากคฤหาสถ์มาโกแล้ว อย่าทรมานร่างกายคุณเขาเลยค่ะ 5555

ทำไมวันนี้ใจดีกับวิลล่ะคะหมอ /แพนกล้องไปที่ ดอกและชาคาโมมายล์

H : ยิ้มรับ /ซ่อนบันทึกผลการทดลองไว้ด้านหลัง

หนึ่งความฝันซ้อนทับความจริง (YOI)

oneshort – Yuri on Ice

pairing : Victor x Yuri

warning : เนื้อหาค่อนข้างหน่วง โปรดเตรียมใจตับไตไส้พุง

กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่ว ดวงตาสีน้ำตาลที่ตอนนี้เต็มไปด้วยหยาดน้ำตายังคงปรับโฟกัสตรงหน้าไม่ได้ ภาพตรงหน้าพร่าเลือน  มือขาวซีดสั่นเทายกขึ้นแตะที่ข้างขมับ เลือดไหลลงอาบข้างแก้ม ก้มลงมองขาทั้งสองข้างที่ติดอยู่ในคอนโซลรถยนต์ กระจกรถยนต์ด้านหน้าแตกเป็นเสี่ยง  ท้องฟ้าด้านนอกมืดสนิท แต่ยังคงมีแสงไฟจากรถกู้ภัยที่ส่องเข้ามาพอให้เห็นสภาพรอบตัว ค่อยๆหันหน้าไปทางฝั่งคนขับ ภาวนาในใจแม้จะรู้ว่าความหวังนั้นช่างริบหรี่ ทั้งประตูรถ และตัวรถด้านหน้าถูกบีบอัด จนไม่เหลือเค้าโครงเดิม บังคับตัวเองให้หันมองไปยังคนข้างกายแม้ว่าร่างกายจะเย็นเยียบมากแค่ไหน รู้สึกเหมือนอยู่ในน้ำ ไม่สามารถที่จะหายใจเพื่อเอาอากาศเข้าไปได้ จุกในคอจนอยากอาเจียนออกมา …

…และเมื่อหันหน้าไปหาวิคเตอร์ คนรักของเขา

ก็ราวกับโลกทั้งใบได้แตกสลาย…

…แล้วภาพข้างหน้าก็ดับมืดลง

.

.

.

ยูริสะดุ้งตื่นขึ้นมา

แสงอาทิตย์ที่ส่องมาทางหน้าต่างบ่งบอกว่าเป็นเวลาเช้าแล้ว

ใบหน้าหวานชื้นไปด้วยเหงื่อ หอบหายใจหนัก ร่างกายสั่นเทาจนต้องใช้สองแขนขึ้นมากอดตัวเองไว้

ไม่เป็นไร มันก็แค่ฝัน

ยูริปลอบใจตัวเอง

กลิ่นหอมหวานของอาหาร และเสียงกระทบกันของอุปกรณ์ดังมาจากในห้องครัว ยูริยันกายขึ้นมาจากเตียง ใส่รองเท้าสีน้ำตาลลายพุดเดิ้ลที่เคยไปซื้อกับวิคเตอร์ คว้าเสื้อคลุมที่แขวนไว้ข้างเตียงขึ้นมาใส่ ก่อนจะเดินไปทางห้องครัว

วิคเตอร์ที่ได้ยินเสียงคนเดินมาทางตนก็หันกลับไปมอง

“อรุณสวัสดิ์ ยูริ วันนี้ตื่นสายนะ”

รอยยิ้มอบอุ่นที่ส่งมาจากคนตรงหน้า ยังคงปลอบโยนยูริได้ทุกครั้ง

“ยูริ? ทำไมหน้าซีดแบบนั้นล่ะ”

“ผมแค่ฝันร้ายน่ะ”

วิคเตอร์กางมือทั้งสองข้าง ยูริเห็นดังนั้นก็ตรงเข้าไปกอดร่างของคนตรงหน้า ซบหน้าลงบนลาดไหล่ วิคเตอร์กระชับอ้อมกอดลูบหลังของคนตรงหน้า

“ไม่เป็นไรนะยูริ ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว”

กระซิบถ้อยคำด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

ความกลัวจากฝันร้ายค่อยๆหายไป เสียงหัวใจของเจ้าของอ้อมกอด วิคเตอร์ยังอยู่กับเขาตรงนี้

“ผมไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ” ค่อยๆดันตัวเองออกจากอ้อมกอดนั่น ถึงเจ้าของจะไม่อยากปล่อยก็เถอะ

“ทำไมวันนี้วิคเตอร์ทำอาหารเยอะจัง”

“ช่วงนี้ยูริผอมไปมากเลยนะรู้มั้ย ไหนๆฉันก็มีเวลาว่างแล้ว ถึงฉันจะทำได้แค่อาหารเบสิคๆก็เถอะ ฮ่าๆ”

ยูริอมยิ้มให้กับภาพตรงหน้า เขารู้ว่าอีกหนึ่งเหตุผลที่วิคเตอร์ไม่ได้พูด นั่นก็เพราะวันนี้เป็นวันครบรอบของพวกเขา วันครบรอบหลังจากแต่งงานมา6ปี ตั้งแต่ที่วิคเตอร์ตกลงที่จะกลับมาลงแข่งและเป็นโค้ชให้กับยูริด้วย ยูริก็ได้ย้ายมาอยู่กับวิคเตอร์ที่รัสเซีย หลังจากนั้น5เดือน วิคเตอร์ก็ได้ขอเขาแต่งงาน ที่หน้าโบสถ์ ที่ๆเขาเคยให้แหวนเป็นของขวัญกับวิคเตอร์

 

“วันนี้ยูริไม่มีงานอะไรใช่มั้ย”

“ครับ” ลูบหัวมัคคาชินที่วิ่งมาพันขา “คุณจะชวนผมไปไหนหรอ”

“ใช่ๆ ฉันได้บัตรไปเที่ยวสวนสนุกมาน่ะ เห็นว่าเปิดใหม่”

แน่นอนว่ายูริรู้ บัตรที่ได้มานั่นน่ะ วิคเตอร์ก็คงจะไปซื้อมาเองอยู่แล้วล่ะ ไหนจะเรื่องตารางงานในวันนี้ วิคเตอร์ก็เป็นคนไปคุยกับผู้จัดการเอง รู้จักกันมาจะ7ปีแล้ว เขาก็เริ่มทันคนตรงหน้าแล้วล่ะ

“ไปเที่ยวกันนะ ยูริ” ดวงตาสีฟ้าโค้งขึ้นพร้อมรอยยิ้มนั่น ยูริตกหลุมรักมันในทุกๆวัน

 

เนื่องจากว่าวันนี้เป็นวันหยุด สวนสนุกจึงเนืองแน่นไปด้วยผู้คน ทั้งครอบครัวที่พาเด็กๆมาเล่น เด็กนักเรียนที่มาทัศนศึกษาก็มี กลุ่มวัยรุ่นที่ส่งเสียงโหวกเหวกโวยวายนั่น หรือจะเป็นคู่รักที่เดินข้างๆกัน…เหมือนยูริและ วิคเตอร์ในตอนนี้

“alice’s hotcat นี่อร่อยดีนะยูริ” ร่างสูงส่งไส้กรอกที่แต่งเป็นรูปหน้าแมวเชสเซียร์พันด้วยขนมปังปิ้งทาแยมบลูเบอร์รี่ มาให้ยูริที่ตอนนี้กำลังดูแผนที่เพื่อเลือกเครื่องเล่นในสวนสนุก

“ตอนแรกผมคิดว่าแยมกับไส้กรอกจะไม่เข้ากันซะอีก” ยูริพูดออกมาหลังลองกินขนมตรงหน้า “เราไปเล่น hold and hole มั้ยครับ ผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”

“เอาสิ ไปทางไหนล่ะ”

“ไปทางซ้าย อยู่ตรงใกล้ๆกับ..”

ยูริที่กำลังดูเส้นทางในแผนที่หยุดชะงัก เขาหันไปทางด้านหลังเมื่อรู้สึกถึงแรงดึงที่ชายเสื้อของเขา

เป็นเด็กผู้ชายตัวเล็ก อายุประมาณ5-6ขวบ ดูตาสีดำโตมองมาที่ยูริด้วยความสนใจ มืออีกข้างของเด็กถือตุ๊กตาสีเขียวอ้าปากกว้างในสภาพห้อยหัว

“มีอะไรรึเปล่าครับ” ยูริส่งแผนที่ให้วิคเตอร์ถือ ก่อนจะย่อตัวลงด้านหน้าของเด็กน้อย

“ยูยิ! ยูยิ!” ไม่ใช่แค่เรียกชื่อเขา เด็กตรงหน้ายังเอามือมาจิ้มแก้มเขาอีกด้วย

“คงจะหลงกับผู้ปกครอง” วิคเตอร์พูดพลางมองหาจุดประชาสัมพันธ์ จากจุดที่พวกเขายืนอยู่ก็ไม่ห่างกันเท่าไหร่

“หนูชื่ออะไรครับ” ยูริถามเด็กตรงหน้าที่ตอนนี้นั่งลงกับพื้นแล้ว

“ผมเช่อริน”

“เช่อริน?”

“ม่ายยยย ผม เช่อ ริน ม่ายช่ายเช่อริน”

“อ๋อๆ รินสินะ” ยูริหัวเราะออกมา เด็กตรงหน้ายังพูดไม่ชัดแต่นั่นก็ทำให้ดูน่ารักน่าเอ็นดูมากเลยล่ะ

“แล้วรินมากับใครครับ ทำไมมาอยู่ตรงนี้ล่ะ”

พอจบคำถาม เด็กตรงหน้าก็สะอื้นขึ้นมาทันที“ผมทิ้งคุงแม่เอาไว กับสัตว์ประหลาด ผมปกป้องคุงแม่ม่ายด้ายยยย ้ฮือออออ”

“โอเคๆ ถ้างั้นเรากลับไปช่วยคุงแม่ของเธอกันดีกว่ามั้ย” วิคเตอร์ที่เห็นท่าไม่ดี เลยรีบพูดขึ้นมา ยูริอมยิ้มให้กับคำว่าคุงแม่ที่วิคเตอร์พูด

ยูริยื่นมือไปให้เด็กน้อยจับ วิคเตอร์เดินไปขนาบตัวเด็กน้อยอีกข้าง“เอาล่ะ! กลับไปต่อสู้กับสัตว์ประหลาดกันเถอะ!!” ดวงตาสีฟ้าเป็นประกาย กำมือชูขึ้นฟ้า ยูริเริ่มสงสัยแล้วว่าวันนี้เขากำลังกลายเป็นพี่เลี้ยงเด็ก2คนรึเปล่า

.

.

.

ภาพเครื่องเล่นในสวนสนุกที่ค่อยๆเล็กลงเรื่อยๆตามความสูงของกระเช้าที่นั่งอยู่ มองไกลออกไปเห็นตึกสูงต่างๆมากมาย และพื้นที่สีเขียวเป็นหย่อมๆ มองเลยไปทางตะวันตก น้ำทะเลที่ตกกระทบแสงแดด เป็นประกาย สะพานที่ยูริเคยออกไปวิ่งกับวิคเตอร์ก็คงอยู่บริเวณนั้น

ชิงช้าสวรรค์ค่อยๆหมุนขึ้นช้าๆ ท่ามกลางความมืดที่เริ่มโรยตัว แสงหลอดไฟบนยอดเสาล่อให้พวกแมลงเข้ามา เสียงฝ่ายประชาสัมพันธ์ที่ออกจากลำโพงบอกถึงเวลาปิดของสวนสนุก

หลังจากที่พาเด็กไปส่งกับฝ่ายประชาสัมพันธ์ (ด้วยความทุลักทุเล เพราะพอเด็กเห็นอะไรแปลกๆก็อยากเข้าไปเล่น หลังจากนั้นวิคเตอร์ก็ตามเข้าไปอีกคน) รอจนแม่ของเด็กมารับ ก็เป็นเวลาใกล้เย็นแล้ว เครื่องเล่นส่วนใหญ่ก็ปิดกันหมด ทั้งคู่จึงจบที่ชิงช้าสวรรค์ที่เปิดให้เล่นนานที่สุด

ภายในกระเช้าที่พวกเขาอยู่ ยังคงเงียบสงบ มีเพียงมือที่จับกันทำให้รู้ว่าข้างกายยังมีอีกคนอยู่

“น้องรินน่ารักดีนะครับ เห็นแล้วนึกถึงตัวเองตอนเด็กเลย” ยูริเป็นฝ่ายทำลายความเงียบระหว่างพวกเขา “เมื่อก่อนผมชอบแอบหนีไปเล่นสเก็ตคนเดียวบ่อยๆ ตอนแรกคนอื่นตามหาผมกันวุ่นวายเลยล่ะ”

“ตอนนี้ยูริก็ทั้งซนทั้งดื้อเหมือนเดิมล่ะนะ” วิคเตอร์ยีผมคนข้างกายเบาๆ

“ผมไปซนตอนไหนกันครับ วิคเตอร์!”

“แล้วใครกันล่ะที่แอบไปเล่นสเก็ตตอนไม่สบาย สุดท้ายก็ป่วยหนักกว่าเดิม”

“ถ้าผมดื้อ วิคเตอร์ก็เหมือนกันนั่นล่ะครับ” ยูริบ่นอุบ ก่อนที่ทั้งคู่จะหัวเราะออกมาพร้อมกัน

“ยูริ” เพราะเสียงเรียกจริงจังนั่น ทำให้เขาหันมอง

“ยูริ อยากมีสมาชิกใหม่มาอยู่ในบ้านของเรามั้ย” มือของเขาถูกบีบเบาๆ “ฉันคิดมาสักพักแล้วล่ะ พอมาเห็นยูริที่กำลังเล่นกับเด็กคนนั้น ฉันเลยอยากจะรับเด็กสักคนมาเลี้ยง ให้เป็นลูกของพวกเรา”

วิคเตอร์รู้ ว่ายูริอยากจะมีครอบครัวที่มีความสุข ได้ใช้ชีวิตกับคนรัก และมีลูกตัวน้อยให้เลี้ยงดู พอมาได้ยินแบบนี้แล้ว น้ำตาก็รื้นขึ้นมา เขาดีใจที่วิคเตอร์สนใจความรู้สึกเขาแบบนี้ ยูริซบหน้าลงกับไหล่ของคนรัก พยักหน้าเบาๆเป็นคำตอบ

 

หลังจากนั้นไม่นาน… กระเช้าก็หยุดลงที่จุดเริ่มต้น

.

.

.

ก่อนที่วิคเตอร์จะสตาร์ทรถเพื่อกลับไปยังที่พัก เขาก็หันไปหยิบของจากเบาะหลังรถ

“สุขสันต์วันครบรอบนะ ยูริ” วิคเตอร์ยื่นกล่องของขวัญขนาดเล็กมาตรงหน้า ยูริยิ้มรับ โน้มตัวไปกดจูบที่ริมฝีปากของคนรักเบาๆ วิคเตอร์จูบตอบอีกฝ่าย ไม่มีการลุกล้ำใดๆ มีเพียงแค่ความอ่อนโยนที่มอบให้คนรักเท่านั้น

“ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาตลอดนะครับ วิคเตอร์”

“รู้อะไรมั้ย ฉันอยากจะกลับถึงบ้าน แล้วไปนอนกอดเธอตอนนี้เลยล่ะ”

“วิคเตอร์!!”

ยูริกลับมานั่งที่เบาะ ก่อนที่รถจะค่อยๆออกตัว ยูริหันมองภาพด้านนอกหลังจากพ้นบริเวณสวนสนุกแล้ว ท้องฟ้าที่มืดสนิททำให้มองเห็นดาวอยู่บ้างแต่ก็ไม่มากเหมือนที่ฮาเซ็ตสึ บ้านเกิดของเขา เสียงจากวิทยุที่กำลังเล่นเพลง Yume no mata yume ยูริฮัมเพลงเบาๆ พลางคิดถึงเนื้อเพลงที่บอกเล่าถึงเรื่องราวความฝันในหน้าร้อน ในตอนนี้ยูริมีความสุขมาก การที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับคนที่รัก ได้ทำในสิ่งที่ชอบ ความฝันที่เคยวาดเอาไว้ ในตอนนี้เป็นความจริงแล้ว มองป้ายโฆษณาที่ติดอยู่บนทางโค้งด้านหน้า เป็นงานแสดงที่ยูริและวิคเตอร์ได้รับเชิญให้ไปแสดงสเก็ตซ์คู่ ในช่วงนี้ทั้งคู่เลยได้ฝึกเล่นด้วยกันบ่อย

แต่เมื่อวิคเตอร์ลดความเร็วเพื่อเตรียมเลี้ยวรถ แสงจากรถที่ขับสวนมาทำให้เขาหันไปมอง เสียงเบรคของรถบรรทุกที่ดังขนาดที่เขานั่งอยู่ในรถยังคงได้ยินอย่างชัดเจน มองภาพตรงหน้าที่ราวกับถูกกดสโลว์ วิคเตอร์พยายามหักรถเลี้ยวหลบ แต่นั่นก็ช้าเกินไป รถบรรทุกที่ขับอีกเลนส์หลุดจากทางโค้งและตรงมายังรถของพวกเขา…

.

.

.

ยูริสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้ง

แต่ภาพตรงหน้าไม่ใช่ผนังสีน้ำตาลอ่อน แต่เป็นสีขาว

ไม่มีเสียงของการทำอาหารมาจากห้องครัว มีเพียงเสียงเครื่องวัดชีพจรที่ดังอยู่ข้างเตียง

ชุดนอนตัวโปรดถูกแทนที่ด้วยชุดผู้ป่วย

และยูริกำลังอยู่ที่ โรงพยาบาล ไม่ใช่บ้านของพวกเขา

ยื่นมือไปหยิบไม้สำหรับค้ำเดิน พยุงตัวเองให้ยืนขึ้น และระวังไม่ให้ลงน้ำหนักไปที่ขาขวา ขาที่เข้าเฝือกอยู่ เปิดกระจกที่เชื่อมกับระเบียง สายลมตอนกลางคืนในหน้าหนาว ทำให้รู้เหมือนเข็มเสียดแทงไปทั่วทั้งร่าง

แต่อย่างน้อยก็ช่วยเรียกสติจากฝันนั่นได้

ไม่มีอีกแล้ว คนที่คอยกอดเขาทุกครั้งที่ตื่นมาจากฝันร้าย

หลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อ 6 เดือนก่อน ยูริเข้ารับการรักษาได้ทัน.. แต่อีกคนนั้นไม่

เขายังจำความรู้สึกนั้นได้ดี หลังจากที่ฟื้นขึ้นมา และรู้ว่าวิคเตอร์ไม่อยู่แล้ว เขาได้แต่คิดว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมพระเจ้าถึงไม่เอาชีวิตเขาไปด้วย แต่พอได้เห็นใบหน้าของครอบครัว เพื่อนสนิท คนสำคัญคนอื่นๆ ยูริจึงล้มเลิกความคิดนั้น เขาคิดว่าอย่างน้อยเขาก็อยากจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่แทนวิคเตอร์ อยากจะเล่นสเก็ตจนกว่าจะถึงช่วงชีวิตสุดท้าย แต่คำรายงานผลจากหมอก็ทำให้ทางของเขาดับมืดลง

ยูริไม่สามารถเล่นสเก็ตได้อีกต่อไป

ขาข้างซ้ายที่กระดูกหักเข้าเฝือกไม่กี่เดือนก็สามารถกลับมาใช้ได้ แต่ขาข้างขวาของเขา เส้นเอ็นขาด มากที่สุดก็ได้แค่เดิน ไม่อาจกลับมาเล่นกีฬาที่เป็นเหมือนชีวิตของเขาได้อีก ยูริไม่รู้ว่าหลังจากนี้ชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไร แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ ความฝันที่ยูริจะฝันถึงในทุกครั้งที่นอนหลับ นับตั้งแต่วันที่ฟื้นขึ้นมาก็ไม่เปลี่ยนแปลง ยูริไม่คิดจะบอกเรื่องนี้ให้ใครรู้ เขาไม่อยากลืมเลือนมันไป หวังเพียงว่าหลังจากที่เขาฝันเห็นภาพอุบัติเหตุในวันนั้น และตื่นขึ้นมา เห็นวิคเตอร์กำลังทำอาหาร มัคคาชินที่นอนรอที่พื้น จะเป็นเรื่องจริง…

 

แต่ไม่ว่าจะหลอกตัวเองอย่างไร ลึกๆแล้วยูริก็รู้ดี ว่าฝันซ้อนฝันนั้นจะไม่มีวันเป็นจริง

 

_____________________________________________

ฟิคเรื่องนี้เราได้แรงบันดาลใจมาจากเพลง Yume no mata yume ของmafumafu ชอบประโยคที่ว่า

夢のまた夢か 見果てぬ夢。

ฝันซ้อนฝัน คือความฝันที่ไม่มีทางเป็นจริง

เราก็เลยตีความประโยคนี้ในความคิดของเราดูค่ะ

มีความเห็นยังไงก็คอมเมนท์มาได้นะคะ รัก ❤

รีวิวเกม BLAZE! Love to the top [BL] ผมจะเป็นไอดอลให้ได้เลย!

เนื่องจากช่วงนี้ค่อนข้างว่าง //หันมองกองหนังสือที่ยังไม่อ่าน  เลยหาเกมเล่นค่ะ ก็มาเจอกับเกม BLAZE! Love to the top เป็นเกมจีบหนุ่ม ที่คนจีบเป็นผช. หรือก็คือเกมวาย Boy’s love นั่นเอง เราก็เลยมาแนะนำเกมนี้และอธิบายระบบต่างๆภายในเกม แบบที่ว่าอ่านจบแล้วสามารถเล่นเกมแบบไม่งงกันค่ะ!

เกม BLAZE! Love to the top เป็นเกมของทางญี่ปุ่นค่ะ มีทั้งในios และ android ใช้ภาษาอังกฤษนะคะ ศัพท์ไม่ได้มีคำแปลกๆมาก ใครไม่เก่งอังกฤษก็พอถูไถได้ แล้วก็ในเกมไม่มีเสียงประกอบนะ อย่าพยายามเปิดเสียงแบบเราล่ะ5555

โดยในเกมเราจะรับบทเป็นผู้ชายผมดำตาดำตัวผอมบางตามแบบฉบับนายเอกค่ะ  โดยตัวเอกของเราเนี่ย ชอบไอดอลกลุ่มนึงที่ชื่อว่า BLAZE ก็เลยสมัครเข้าทำงานเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ที่บริษัทนั้น เพราะอยากจะใกล้ชิดไอดอลที่ชื่นชอบนั่นเอง

แต่อยู่มาวันนึง CEO ของบริษัทที่ไม่ปรากฏหน้า ก็มาได้ยินเสียงฮัมเพลงของตัวเอกเราเข้า เลยชักชวน(ผสมบังคับ)ให้เข้ามาเป็นสมาชิกคนใหม่ของBLAZE! โดยจะมาเป็นเด็กฝึกก่อน แล้วก็เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางจีบ– เอ้ย ทางสู่การเป็นไอดอลของตัวเอกเรา โดยตัวเอกจะต้องเลือกสมาชิก1คนมาเป็นเทรนเราในช่วงที่เป็นเด็กฝึกค่ะ นั่นก็คือการเลือกรูทนั่นเอง —!

โดยสมาชิกจะมี 3 คน พูดง่ายๆคือเราจะเลือกจีบได้ 3 คนค่ะ

 

tm

 

Takuya Momose เริ่มจากลีดเดอร์ของวงก่อนเลย คุณโมโมเสะเขาก็จะมาแนวผู้ใหญ่หน่อยค่ะ แต่ชอบสกินชิพตัวเอกเราอยู่เรื่อย อบอุ่น  อ่อนโยน ต้องเขาเลย

แนวคำตอบของรูท Takuya Momose

 

st

 

Shinnosuke Tokura ใครชอบผช.สดใสต้องโทคุระเลยค่ะ เป็นคนที่ดูสดใสแอคทีฟ และให้กำลังใจเรา ถึงจะเลือกรูทคนอื่นน้องเขาก็ยังคอยมาคุย มาให้กำลังใจเราอยู่ดี

แนวคำตอบของรูท Shinnosuke Tokura

ai

 

Arata Ichinose ปากร้าย แต่จริงๆแล้วใจดี หรือเรียกได้ว่าซึน เป็นคนที่ออกอาการในแง่ลบมากที่สุดตอนที่เราจะเข้ามาเป็นสมาชิกค่ะ ใครเลือกรูทนี้ก็ต้องทำให้อิจิโนเสะเขายอมรับความสามารถให้ได้ล่ะ 555

แนวคำตอบของรูท Arata Ichinose

screenshot_20180418-210648.jpg

 

และสุดท้าย คุณเลขา ผู้ช่วยอธิบายเราเรื่องเกมค่ะ

คนนี้จีบไม่ได้แต่เราชอบที่สุดละ55555

อยากให้มีรูทลับจีบคุณเขาได้จัง (. .  )

 

 

 

Screenshot_20180418-153327     Screenshot_20180418-153413

มาดูตัวเกมกันดีกว่าค่ะ เมื่อเปิดเข้ามาหน้าหลักก็จะเจอกับรูปคนที่เราเลือกเข้ารูท ในที่นี้เราเลือกคุณโมโมเสะค่ะ ในการกดอ่าน เนื้อเรื่อง(start game) เราจะต้องใช้ Scenario Ticket 1ใบค่ะ โดยเจ้าScenario Ticket จะรีเซ็ทให้ทุกวันเวลา 4am(JST) ก็คือ 02.00ของไทยนั่นเองค่ะ ถ้าใครที่ไม่อยากรอก็สามารถซื้อได้ที่ shop > item shop

ข้างๆปุ่ม start game จะมี lesson ใช่มั้ยคะ ตรงนั้นจะเป็นเหมือนให้เราและผู้เล่นคนอื่นๆมาแข่งความcharmกัน ถ้าสำเร็จก็จะได้ Gold และ skill เป็นของรางวัลค่ะ(อาจได้ของรางวัลอย่างอื่นด้วย) โดยlessonหนึ่งครั้งจะใช้ stamina 20 point ค่ะ ตัว stamina จะเพิ่มทุกๆ 3 นาที และเพิ่มได้สูงสุดที่ 100 stamina

ค่า Skill ที่เราได้ จะต้องเอาไปใช้ใน missionค่ะ ในระหว่างการอ่านเนื้อเรื่องจะมีmissionมา โดยเราจะต้องเก็บค่าskillให้ได้ตามที่กำหนดจึงจะอ่านเนื้อเรื่องต่อไปได้ (แต่ก็ไม่ได้ขึ้นมาบ่อยหรอกค่ะ)

Idol Gacha เป็นกาชาที่จะสุ่มของมาแต่งตัวผช.ที่เราเลือกเข้ารูทค่ะ โดยของที่ได้จะเพิ่มค่าaffection เราจะจบ normal end หรือ happy end ก็ขึ้นอยู่กับค่านี้นี่ล่ะ(นอกจากนี้ค่าaffectionยังเพิ่มจากการเลือกตอบคำถามด้วย) Idol Gacha จะหมุนฟรีได้วันละ 1 รอบ

สังเกตตรงมุมขวาล่างของรูปคุณโมโมเสะนะคะ จะมีคำว่า My room ถ้ากดเข้าไปก็จะเป็นรูปห้องของเรา แล้วถ้ากดตรง His room ก็จะเป็นห้องของคนที่เราจีบและตัวละครเราค่ะ

 

ตัวเลือก Menu ด้านขวาบน พอเรากดเข้าไปก็จะเป็นแบบนี้ค่ะscreenshot_20180418-153356.jpg

Shop ในนี้เราจะสามารถซื้อ Ruby (ค่าเงินในเกมจะเป็นเงินเยนนะคะ) Rubyจะเอาไปซื้อของต่างๆในเกมอีกทีค่ะ เช่น ฉาก, ของตกแต่ง, เสื้อผ้า, สกิล, Scenario ticket, Gacha ticket, บัตรเปลี่ยนรูท

Gacha ตรงนี้จะเป็นกาชาของตัวละครเราค่ะ เสื้อผ้าและของตกแต่งจะเพิ่มค่าCharm นอกจากนี้ยังมีไอเทมต่างๆ เช่น energy drink เพิ่มค่า stamina

Change Clothes เปลี่ยนเสื้อผ้า ของแต่งฉาก ของตัวละครเรานั่นเอง

Album เก็บรูปหรือที่เรียกว่า ฉาก CG ค่ะ

Status ค่าสเตตัสของตัวละครเรา สามารถเปลี่ยนชื่อได้ตรงนี้ค่ะ

Fragments Exchange เรียกง่ายๆว่าจุดแลกของรางวัล55 สะสมไอเทมแล้วเอามาแลกอย่างอื่น แล้วแต่ อีเวนท์จะมีให้แลกค่ะ

Owned Item ไอเทมที่เรามีอยู่ในตอนนี้ (ไม่รวมเสื้อผ้าและของตกแต่ง)

Present Box เวลาเราได้ของรางวัล หรือสุ่มกาชา จะต้องเข้ามารับของที่ตรงนี้ก่อนค่ะ

Friends เพื่อน คงไม่ต้องอธิบายอะไรนะ555

Ranking จัดอันดับตัวละครตามค่า Charm และค่า Nice(มีเพื่อนส่งให้)

Login Sheet  รางวัลประจำวัน มีสองแบบค่ะ Silver กับ Gold แบบGoldจะปลดล็อกเมื่อเคลียร์จบ1รูท

Change Character เปลี่ยนเส้นทางไปจีบคนอื่น หรือเริ่มจีบใหม่อีกรอบค่ะ ค่าskill ในส่วนcurrent skillจะถูกรีเซ็ทใหม่นะคะ (แต่สามารถดูค่าskillทั้งหมดที่เคยเล่นได้ที่ total skill)

Code จะมีสองส่วนค่ะคือ Data Transfer และ Invite a freind and receive items ที่เหลือก็จะเป็นโค้ดไว้ใส่ในเกมอื่นๆค่ะ (เราจะไม่พูดถึง)

screenshot_20180418-154925.jpg

 

Data Transfer ตรงนี้จะเป็นโค้ดและรหัสผ่านของเกมนะคะ

Invite a freind and receive items เรียกง่ายๆว่ารางวัลชวนเพื่อนเล่นเกม เราจะมีโค้ดให้เพื่อนที่เล่นใส่ค่ะ โดยคนที่เป็นเจ้าของโค้ดก็จะได้รับรางวัลตามจำนวนครั้งที่กำหนดไว้ สามารถเชิญสูงสุดได้ 6คน ส่วนการใส่โค้ดเชิญสามารถใส่ได้คนละ1ครั้ง รับรางวัลเป็น 5000 Gold

> My Identification Code <

 04VrF0MQe/Ato

อันนี้คือโค้ดเราค่ะ ใครเล่นก็ใส่ได้นะ

 

จบแล้วววว //รูปเยอะจัง

เกมนี้ในความเห็นเราเรื่องระบบก็เหมือนเกมจีบทั่วๆไปค่ะ แต่ความยากในการเก็บไอเท็มคือง่าย พวกไอเท็มแรร์โผล่บ่อย ไม่ต้องกลัวนกกาชาค่ะ แต่แอบไม่ค่อยชอบตรงการกดกลับมันจะไม่ออกจากเกมให้ แต่จะเป็นการย้อนไปหน้าที่กดเข้ามา เวลาจะออกเกมกดลัดจะไวกว่า แต่ก็แอบกลัวเกมไม่เซฟข้อมูลให้ ;-;

เนื้อเรื่องเกมก็สบายๆค่ะ ไม่ได้เครียด ถึงไม่เติมเงินซื้อรูบี้ก็จบเกมนี้ได้ คือเกมไม่ได้ขูดเลือดเรานั่นเอง ใครอยากเล่นเกมเนื้อเรื่องน่ารักๆ คลายเครียดยามว่าง อยากฝึกภาษา เราก็แนะนำเลยค่ะ

ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมก็จะมาอัพเดทให้นะคะ ซียู ❤